วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

QR Code เปลี่ยนสี

ต่อไปนี้ภาพกราฟฟิกสี่เหลี่ยมจัตุรัสลายแปลกตา "QR Code" ที่เคยเป็นสีขาวดำมาตลอด นั้นกำลังถูกใส่สีเติมลวดลายในหลายตลาดทั่วโลกแล้วขณะนี้ ไปอัปเดทเทรนด์ใหม่เรื่อง QR Code ในตลาดโลก ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้หลายคนปิ๊งไอเดียใหม่ในการนำ QR Code ที่เต็มไปด้วยสีสันและสไตล์มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเอง 
สร้างความแปลกใหม่ด้วย Color QR Code กับบทบาทในการดำเนินธุรกิจ



       หลายๆครั้งที่มนุษย์คิดรูปแบบของระบบการจัดการเข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้า จัดการสต็อกด้วยแถบบาร์โค้ด ที่เป็นรหัสติดบนตัวสินค้า นั่นก็เพื่อเป็นการระบุข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ตั้งแต่การผลิต ข้อมูลของสินค้า และราคา
       บาร์โค้ดถูกพัฒนารูปแบบมาเป็นบาร์โค้ดแบบสองมิติภายใต้ชื่อ Quick-Response Code (QR Code) พัฒนาโดยบริษัท Denso Wave ลักษณะเป็นแถบรหัสสองมิติที่มีหน้าตาคล้ายภาพสามมิติที่เราเคยเล่นกันตอนเด็กๆ สามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายและมากกว่าบาร์โค้ดแบบปกติที่เป็นแท่งยาวๆ
       ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการขายสินค้านั้น การที่ข้อมูลสินค้ามีจำนวนมาก ไม่สามารถที่จะใส่ระบุไว้บนกล่องบรรจุภัณฑ์ได้ หรือในใบปลิวโฆษณา หน้าโฆษณา ไม่มีเนื้อที่พอที่จะบรรจุข้อมูลทั้งหมดลงไปได้ ก็จะเป็นหน้าที่ของ QR Code ที่เป็นบาร์โค้ดที่บรรจุข้อมูลดิจิตอลพวกนี้ไว้ โดยมีการเก็บข้อมูลที่อยู่ของเว็บไซต์ ข้อความโฆษณา หรือหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ซึ่งผู้ใช้จะสามารถจัดเก็บตัวอักษรและข้อมูลต่างๆ
       การใช้งาน QR Code ที่เห็นกันในวงการไอทีบ่อยครั้งก็คือนามบัตร ข้อมูลที่จำเป็นจะถูกพิมพ์บนกระดาษ เช่น ชื่อ ชื่อบริษัท เบอร์โทรศัพท์ ส่วนข้อมูลอื่นๆ ผู้รับนามบัตรจะสามารถใช้กล้องบนโทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพ QR Code ด้วยโปรแกรมอ่าน QR Code เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เว็บไซต์ หรือชื่อที่ใช้ในเครือข่ายสังคม
       ที่ผ่านมา คนไทยคุ้นตากับ QR Code ที่เป็นแบบขาวดำ คล้ายๆบาร์คโค้ดแบบแท่งซึ่งมีความเข้ม ความหนาของเส้นต่างกัน ที่ใกล้ตัวที่สุดก็เห็นจะเป็นการแสดงบาร์โค้ด QR Code บน BlackBerry ผ่านโปรแกรม BlackBerry Messenger แค่เอากล้องของ BlackBerry ด้วยกัน ส่องสักระยะให้เซ็นเซอร์อ่านค่า QR Code ก็จะสามารถเพิ่มรายชื่อที่มาพร้อมข้อมูลส่วนตัว
       ตอนนี้หลายๆคนคงจะเริ่มเห็นสินค้าหลายๆชิ้นมีรหัสบาร์โค้ด QR Code ให้สแกนกันแล้ว หลายๆคนใกล้ตัวก็ถามว่า มีลิงค์ URL ให้ดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมใช่หรือไม่ นั่นคือความเข้าใจที่หลายๆคนมองในมุมของการเก็บข้อมูลและแจ้งข่าวสาร จากนั้นให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อีกครั้ง
       หากมองการใช้งานในเชิงธุรกิจแล้ว QR Code นำมาใช้ในการจองตั๋วชมภาพยตร์ ตั๋วรถไฟ เครื่องบินได้ดี เพราะหากเราสแกนบาร์โค้ด QR Code บนบัตรสมาชิกแล้วหักเงินจากบัตร ก็สามารถเก็บข้อมูลได้เลยว่าแต่ละคนมีลักษณะและพฤติกรรมในการชมภาพยนตร์แนวไหน มากี่คน ความถี่ในการชม สาขาที่ชม สถานที่ท่องเที่ยว ความถี่ วันหยุดหรือวันธรรมดา ทำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านการตลาดมากมายและทำ CSR ได้อีกด้วย
  
Color QR Code




       แปลกใจไหมว่าทำไมบาร์โค้ดจึงเป็นขาวดำ ตั้งแต่บาร์โค้ดแบบธรรมดาที่ติดอยู่บนสินค้าทั่วไป จนมาถึง QR Code เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดยังคงเป็นสีขาวดำ ก็เพราะการสแกนอ่านค่าโค้ดบนความแตกต่างของสีขาวและสีดำนั้นมีมากนั่นเอง
       จริงๆแล้ว QR Code แบบสีก็มี แต่ค่าความแตกต่างของสีนั้นจะต้องแตกต่างกันจนเครื่องอ่านหรือซอฟต์แวร์สามารถจำแนก แยกความแตกต่างของสีออกจากกันได้ เพราะอย่าลืมว่าเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดเอง หากใช้คนละยี่ห้อ การผสมสีก็ต่างกัน เช่นเดียวกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ททั่วไป

  
       แม้ว่าบางคนจะเบื่อกับบาร์โค้ดสีขาวและดำ แต่การสร้างบาร์โค้ดสีนั้น จำเป็นต้องมีค่าความแตกต่างของสีที่ต่างกันเยอะหน่อย ทั้ง foreground และ background เช่น พื้นหลังสีม่วงกับแถบบาร์โค้ดสีดำ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ทำให้กฏข้อแรกของการใส่สีให้ QR Code จึงเป็นการเน้นพิจารณาเรื่องสีให้มาก

   
       เรื่องน่าสนใจมากจากการออกแบบ QR Code คือ Louis Vuitton แบรนด์ดังระดับโลก ได้ลงมือผลิตรูปแบบของ QR Code เก๋ไก๋ขึ้นมา ผลิตโดย SET และออกแบบโดย Takashi Murakami ปรับโฉมจากแถบบาร์ขาวดำมาตรฐานปกติ ในขณะที่มีรูปแบบการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป
       การออกแบบ QR Code แบบสีนั้นจะมีข้อแตกต่างตรงที่สีเข้ม สีอ่อน ความคมชัดในการสแกนเพื่อแปลงค่า โดยความแปลกใหม่ของ QR Code แบบสีก็คือการจุข้อมูลได้มากกว่า การผลิตและออกแบบนั้น สามารถที่จะใส่สีหรือเพิ่มรูปภาพลงไปใน QR-Code โดยจะมีตัวที่ควบคุมค่าการอ่านเพื่อลดการผิดเพี้ยน แต่บางคนก็บอกว่าผิดพลาดง่ายขึ้นและไม่เป็นมาตรฐาน

     

       หากสนใจ ตอนนี้มีหลายมาตรฐานอย่าง Kaywa API ในการสร้างโค้ดสี และสร้างความแตกต่างในการทำโค้ดได้จากหน้าเว็บ และยังมีแอปพลิเคชันของญี่ปุ่นในการสร้าง on-line QR-Code ที่ประกอบไปด้วยข้อความ สี และข้อมูลอื่นๆ ภายใต้ชื่อ Moji-Q ใครไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก็ลองใช้ Google Japanese-English translator แปลดูก็ได้
       ทางฝั่งไมโครซอฟท์นั้นได้มีการพัฒนา 2D-Code ที่มีขนาดเล็ก มีรูปทรงและสีที่แตกต่างออกไปเช่นกัน เรียกว่าจะเอามาตรฐานของแต่ละคนวัดกันเลยทีเดียว
       ปัญหาตอนนี้ก็คือความละเอียดของกล้องมือถือยังไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของสีและความเข้มของสีได้มากขนาดนั้น การอ่านด้วยกล้องมือถือจึงมีข้อกำกัดมากกว่าเครื่องยิงบาร์โค้ดทั่วไป
       นอกจากนี้ยังมีบริการจาก Color Code ภายใต้ชื่อ Color Construct Code (Color C Code) สำหรับการใช้งานร่วมกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ในการทำการตลาดและโฆษณาผ่านมือถือ

       

       Color C Code นั้นประกอบด้วยข้อมูลจำนวนมากที่สามารถรันได้โดยไม่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อถอดรหัสและแสดงผลแบบดิจิตอลเช่น ข้อความ ภาพ เสียง เพลง และวีดีโอ ภาพด้านล่างเป็น Color C Code บนปกซีดีที่ถอดรหัสแบบออฟไลน์เพื่อเล่นคลิปเพลง 40 วินาที
       สำหรับตลาด Color QR Code แบบสีนั้นมีข้อกำหนดและข้อจำกัดในเรื่องของการพิมพ์ฉลากบาร์โค้ด โดยการออกแบบให้ QR Code มีหลายสี โดยจะมีส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกันก็คือเครื่องพิมพ์ เครื่องอ่าน ก็คือพิมพ์บนสื่อต่างๆ แล้วทำการสแกนอ่านโดยใช้ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นความแม่นยำและการอ่านความแตกต่างของสีพื้นหลังและจุดบนพื้นหลังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
        โดยการสร้างรหัสโค้ด Color QR Code นั้นไม่ใช่ว่านึกอยากจะสร้างสีอะไรก็สร้าง แต่จะต้องสื่อความหมาย เช่น สีประจำโลโก้ สัญลักษณ์ของบริษัท หรือบนการ์ดอวยพรช่วงคริตมาสก็จะเป็นสีแดงกับเขียว
        ดังนั้นความเข้มของสีในการพิมพ์ Color QR Code จึงมีความแตกต่างจากขาวดำตรงที่พรินเตอร์ที่ใช้ กระดาษที่ใช้ ก็มีผลกับสีด้วยเช่นกัน ดังนั้นการพิมพ์แบบสีอาจจำเป็นต้องเข้มงวดในเรื่องของการพิมพ์เพราะมีผลกับความผิดพลาดในการสแกนและอ่านโค้ด

       
  
        เรียกได้ว่า CQ Code และ Color C Code ต่างก็เป็นรหัสโค้ดแบบใหม่ที่ตอบสนองการทำการตลาดและใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ การตลาด การบริการ และโฆษณา ผู้บริโภคปรับตัว ผู้ผลิต นักการตลาด นักโฆษณาควรรู้ไว้เพื่อปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดครับ
      ขอขอบคุณ
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9530000024807

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โรคต่างๆ จากคอมพิวเตอร์

ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้คนยุคสมัยนี้ ถึงแม้จะให้คุณอนันต์ แต่ว่าคอมพิวเตอร์ก็มีโทษเหมือนกัน

ล่าสุด ที่ทำให้ตกใจกันทั่วคือ เมื่อนักวิจัยชาวอังกฤษได้ทำการศึกษาและพบว่า คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์นั้น เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียอันตรายมากกว่าโถสุขภัณฑ์ถึง 5 เท่า!!! และทำให้ผู้ใช้ท้องเสียโดยไม่รู้ตัว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอีกหลายโรคที่เกิดเพราะคอมพิวเตอร์


ท้องร่วงเพราะคีย์บอร์ด
โรคที่ตั้งชื่อตามตัวอักษรชุดแรกบนแป้นคีย์บอร์ดว่า Qwerty Tummy อาจระบาดในที่ทำงานได้ หากว่าแป้นคีย์บอร์ดมีแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ และผู้ใช้รับประทานอาหารไปพร้อมกับใช้งานคีย์บอร์ดเครื่องคอมพ์ด้วย
การศึกษาครั้งนี้ แสดงว่าคีย์บอร์ดเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียที่น่ากลัวด้วยคนทำงาน 1 ใน 10 ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ด และ 20% ไม่เคยทำความสะอาดเมาส์ ขณะที่ 50% ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ดภายในเวลาหนึ่งเดือน
นอกจากนี้ ด้วยรูปแบบการทำงานสมัยใหม่ ที่พนักงานต้องย้ายโต๊ะทำงานไปเรื่อยๆ ทำให้พวกเขาไม่มีทางรู้ว่า ใครใช้คีย์บอร์ดที่กำลังใช้อยู่และใช้งานอย่างไรบ้าง
ทางแก้ไขคือ ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จึงควรทำทั้งที่บ้านและที่ทำงานควรทำความสะอาดคีย์บอร์ดเป็นประจำไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย วิธีการคือ ทำความสะอาดด้วยผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ ที่สำคัญคือ อย่าลืมถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ก่อน
โรคอื่นๆ อีกมากมาย
คอมพิวเตอร์จะไม่เป็นอันตราย หากว่าคุณไม่ใช้มันจนติดเป็นนิสัย ซึ่งหมายความว่า นั่งจมจ่อมอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เกือบจะตลอดวันและทุกวัน คนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ้างเป็นบางครั้งคราวย่อมไม่ได้เจ็บป่วยเพราะคอมพิวเตอร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคนก็จะได้รับผลกระทบจากเครื่องใช้ไฮเทคนี้มาก-น้อยช้า-เร็วไม่เหมือนกัน หลายๆ อาการเจ็บป่วยจากคอมพิวเตอร์นั้น อาจจะเป็นสิ่งที่เรารู้กันดี แต่บางครั้งก็หลงลืม ลองมาทบทวนกันดูหน่อยดีไหม


ปวดตา 
เพราะการใช้คอมพิวเตอร์ทำให้ตาต้องจ้องจอสว่างๆ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพสายตา จึงควรระวังแสงที่จะส่องตรงมา โดยเฉพาะแสงจากด้านหลังของจอคอมพิวเตอร์ ควรให้แสงเข้ามาด้านข้าง (ด้านขวาก็จะดี) ถ้าเป็นไปได้ให้ติดแผ่นป้องกันรังสี รวมทั้งปรับความสว่างของจอให้เหมาะสมกับดวงตา การอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่เพียงทำให้เกิดอาการปวดตาเท่านั้น แต่อาจเป็นสาเหตุของโรคต้อหินในอนาคตด้วย โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่สายตาสั้น นอกจากนี้ จอคอมพิวเตอร์ที่สั่นไหว หรือเป็นคลื่นนั้นควรจะยกไปซ่อมซะ ควรละสายตาจากจอบ้างเป็นครั้งเป็นคราว กะพริบตาเป็นระยะ เพราะดวงตาของคุณต้องการความชุ่มชื้น


โรคเส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ
ปรับระดับความสูงของเก้าอี้หรือโต๊ะที่วางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ข้อศอกอยู่ในมุม 90-100 องศา วางคีย์บอร์ดให้เหมาะ เวลาใช้คีย์บอร์ดจะได้ไม่ต้องงอมือให้อยู่ในท่าที่ไม่สะดวกสบาย ควรวางข้อมือบนโต๊ะหน้าคีย์บอร์ดถ้าหากจำเป็น ควรพิมพ์คีย์บอร์ดและใช้เมาส์อย่างเบามือ ถ้ามีเวลาก็ออกกำลังกายข้อมือและนิ้วบ้าง หากสามารถทำงานด้วยวิธีการอื่นโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะและทำซะ


ปวดคอและหลัง
สำรวจท่านั่งเวลาทำงานของตัวเอง ควรนั่งตัวตรง ห่างจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 18-24 นิ้ว เก้าอี้ที่ดีควรจะมีล้อ สามารถปรับพนักพิงได้ และต้องมีที่วางแขน โต๊ะควรจะมีพื้นที่ว่างสำหรับวางเครื่องมืออื่นๆ ในการทำงาน

และสุดท้ายที่อยากตระหนักกันให้มากคือ อันตรายคลื่นลูกใหม่ที่มาจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและหลอดภาพของจอคอมพิวเตอร์ เมื่อเราเปิดเครื่องใช้ก็จะมีรังสีแผ่ออกมา จึงไม่ควรนั่งใกล้จอเกินไป โดยเฉพาะเวลาใช้แล็ปท็อปซึ่งทำให้เราต้องนั่งใกล้เครื่องมากกว่าพีซี ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้แผ่นป้องกันรังสี หรือเลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ที่ไม่แผ่พลังรังสีไฟฟ้าออกมา แม้ราคาจะแพงกว่า แต่ปลอดภัยกว่า หากไม่ใช้เครื่องก็ควรปิด โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในห้องนอน

รู้แล้วก็ลงมือทำซะวันนี้ ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์จะไม่ฆ่าเราทันทีทันใด แต่คงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ถ้าเราไม่เสี่ยงกับการเกิดโรคภัยเหล่านี้ นะคะ เพื่อนๆที่ใช้คอมพิวเตอร์ทุกวัน ต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาด พักสายตา ยืดเส้นยืดสาย ขยับร่างกายกันบ้างนะจ๊ะ ไม่งั้นโรคถามหาแน่นอน

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

iPhone 5

ลือสนั่น!! iPhone 5 เตรียมออกกลางปี 2011


ในขณะที่หลายๆ คนยังไม่ได้สัมผัส iPhone 4 หรือเพิ่งจะไปต่อแถวจองจากงาน Thailand Mobile Expo 2010 มาหมาดๆ ก็มีข่าวลือว่า ทาง Apple กำลังจะออก iPhone 5 ประมาณกลางปี 2011 นี้แล้ว เลยทำให้หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่า เหตุผลที่ทาง Apple รีบออก iPhone 5 นั้น เพื่อลบปัญหาเสาสัญญาณที่เกิดขึ้นกับ iPhone 4 หรือไม่ และ iPhone 5 จะดีกว่า iPhone 4 ในจุดไหนบ้าง


iPhone 5 จะออกประมาณเดือนมิถุนายน ปีหน้า??
Apple เคยระบุไว้ว่า iPhone รุ่นใหม่ๆ นั้นจะออกช้าสุดประมาณช่วงเดือนมิถุนายน หรือไม่ก็ช่วงเดือนกรกฏาคมในแต่ละปี ซึ่งในจุดนี้อาจจะเป็นยืนยันได้ว่า iPhone 5 อาจจะออกช่วงเดือนมิถุนายนจริง แต่ทางเว็บไซต์ iLounge ได้ตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะออกช่วงเดือนมกราคม ปี 2011 แม้จะเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อ แต่อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ Apple ต้องรีบออก iPhone 5 เร็วขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ปัญหาเรื่องของเสาสัญญาณ เว้นเสียแต่ว่า จะมีเหตุผลลึกๆ กว่านั้น


iPhone 5 กลายเป็นกระเป๋าสตางค์แบบดิจิตัล?
หลายฝ่ายคาดคะเนไว้ว่า Apple น่าจะนำเทคโนโลยีแบบ Near Field Communication (NFC) ซึ่งหมายถึง iPhone 5 นั้นสามารถใช้งานเป็นเดบิต หรือเครดิตการ์ดได้ โดยทาง Apple ได้ทำการจดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับระบบ NFC บนโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว



ระบบ NFC ที่หลายฝ่ายคาดว่า Apple จะนำมาใช้กับ iPhone 5


สเปคของ iPhone 5 คล้ายกับ iPhone 4 ?
สำหรับในเรื่องของสเปคนั้น มีข่าวลือแพร่ออกมาว่า ทาง Apple อาจจะใช้ chipset จากบริษัท Qualcomm ใน iPhone 5 แทนที่จะใช้ chipset จากบริษัท Infineon ที่ถูกนำไปใช้ใน iPhone 4 โดย chipset จากบริษัท Qualcomm นั้น จะเชื่อมต่อกับเครือข่าย CDMA ของบริษัท Verizon ซึ่งนักวิเคราะห์หลายฝ่ายระบุว่า จะทำให้ iPhone 5 หมดปัญหาเรื่องเสาสัญญาณขาดหายแบบที่ iPhone 4 เป็นอย่างแน่นอน นอกจากนั้น หน้าจอก็อาจจะใหญ่ขึ้นนิดหน่อย จาก 3.5 นิ้ว เป็น 3.7 นิ้ว ส่วน ซีพียู ก็อาจจะเร็วขึ้นเป็น 1.2 GHz ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้


ความแรงและเร็วของ iPhone 5 ?
นักวิเคราะห์ท่านหนึ่งได้มองว่า iPhone 5 น่าจะเชื่อมต่อกับรองรับเครือข่าย LTE ซึ่งเป็นบรอดแบนด์ที่ทางอเมริกาให้การยอมรับในเรื่องความแรงของสัญญาณ และจะทำให้ iPhone 5 กลายเป็นโทรศัพท์ระบบ 4G ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ทาง AT&T มีแพลนที่จะนำเครือข่าย LTE มาใช้ในปีหน้านี้อีกด้วย





แล้วราคาของ iPhone 5 ล่ะ?
ถ้าหาก iPhone 5 เปรียบได้กับวิวัฒนาการจาก iPhone 3G ไปยัง iPhone 3GS แล้วล่ะก็ ราคาก็อาจจะสูงขึ้นเล็กน้อยหรือไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาษีนำเข้าของแต่ละประเทศด้วย

ข้อมูลจาก : http://www.sanook.com/

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

iPhone4G

Review คุณสมบัติของ iPhone 4G

iPhone 4 g
iPhone 4G ได้ออกมาโชว์ในงาน WWDC  ด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์ที่เปลี่ยนไปมากจากรุ่นเดิมแบบว่าเหมือนคนละซีกโลกไปเลย iPhone 4 มีรูปทรงที่เพรียวบางโค้งมน ต่างจาก iphone รุ่นก่าที่เป็นสี่เหลี่ยม Apple ได้งัดตัวประมวลผลที่ได้ทำการพัฒนาขึ้นมาในนาม A4 (ตัวเดียวกับ I-Pad) ขึ้นมาเป็นตัวประมวลผลหลักที่มาพร้อมกับ I-OS4 ระบบปฏิบิติการที่จะทำให้ I-Phone4 มีลูกเล่นที่แพรวพราวกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบ Multi-Tasking / สามารถสร้าง Finder ได้ในตัวเครื่องและที่การออกแบบปุ่มควบคุม เสียงและการปิด/เปิดเครื่องที่ดูใหญ่ขึ้น ทำให้ใช้งานได้ถนัดมือขึ้นกว่ารุ่นเดิม ๆ

iPhone 4 G

Features
ระบบปฎิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 4
หน่วยความจำ 16 GB / 32 GB (ตัวเครื่อง)
ระบบตรวจจับ (Sensors)
- ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ 3 แกน (Three-axis gyroy)
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor)
- ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity Sensor)
- Ambient light sensor : ปรับแสงสว่างของไฟหน้าจออัตโนมัติ
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
เครื่องเล่นเพลง iPod
ฟังก์ชั่นด้านเสียง (Voice Control)
- โทรออกด้วยเสียง (Voice Dial)
- ควบคุมเครื่องเล่นเพลงด้วยเสียง (Voice Control)
- บันทึกข้อความเสียง (Voice Memo)
Airplane mode : ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
ปฎิทิน, หุ้น, โปรแกรมสุขภาพจากไนกี้, สภาพอากาศ, จดบันทึก, เครื่องคิดเลข


Connectivity
WiFi 802.11b/g/n , WLAN (Wireless LAN)
บลูทูธ Bluetooth™ v2.1+ EDR , USB v2.0
ใช้งานอินเตอร์เน็ต Full HTML (Safari Browser)
Email (POP3/IMAP4) รองรับ Gmail / Yahoo / AOL
MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS


Memory
หน่วยความจำ 16 GB / 32 GB (ตัวเครื่อง)

Battery
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion – mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 300 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง
- ระบบ UMTS 7 ชั่วโมง
ช้งานอินเตอร์เน็ตนานต่อเนื่อง (Internet use)
- ระบบ UMTS 6 ชั่วโมง / ระบบ Wi-Fi 10 ชั่วโมง
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
ฟังเพลงนานต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง

Network
GSM 850/900/1800/1900 MHz
ไอ โฟน 4

Display
จอสัมผัส Multi-Touch 326 DPI  ความละเอียดหน้าจอ 960 x 640 พิกเซล
ขนาดหน้าจอ  3.5 นิ้ว  หน้าจอเคลือบ Oleophobic ป้องกันรอยนิ้วมือ
iPhone 4 G camera

Digital Camera
ล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED (Digital Camera)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- เลือกจุดโฟกัสอิสระ (Touch Focus)
- ซูมดิจิตอล 5 เท่า (5x Digital zoom)
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Photo geotagging)
กล้องตัวที่สอง VGA รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
iPhone 4 G camera video

Video
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียดภาพถ่าย 1280 x 720 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับวิดีโอ (Video geotagging)
- กล้องตัวที่สอง 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player)
- รูปแบบไฟล์ H.264, MPEG-4, MOV, Motion JPEG
- รองรับ YouTube™


Audio
เสียงเรียกเข้า AAC, MP3, Polyphonic
เครื่องเล่นเพลง iPod
- รูปแบบไฟล์ AAC (8 to 320 Kbps), Protected AAC (from iTunes Store), HE-AAC, MP3 (8 to 320 Kbps), MP3 VBR, Audible (formats 2, 3, 4, Audible Enhanced Audio, AAX, and AAX+), Apple Lossless, AIFF, WAV
- เลือกเพลงด้วยเสียง (Use your voice to play music)
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ราคาของ iPhone 4 Update ล่าสุด
สำหรับ ราคา ของ iPhone 4 นั้นได้ถูกตั้งขึ้นโดยมีราคากลางของ Apple ส่วนถ้าหากซื้อจากที่อื่น หรือ Web บางที่ ราคาจะถูกลง หรืออาจจะแพงขึ้นกว่าเดิม แต่จะถูกกว่าเท่าใหร่นั้นทาง User ต้องหมั่น Update ราคา ของ iPhone 4 บ่อยๆ เพราะบางครั้งถ้าซื้อถูกช่วง อาจจะได้ราคาที่ดี
ราคา iPhone 4 จะวางจำหน่ายในความจุ 32GB ที่ราคา 199 เหรียญ และ 64GB ที่ราคา 299 เหรียญ (ข้อมูลราคากลางจาก Apple)
ที่ผ่านมา ไอโฟน 3Gs ถูกวางจำหน่ายด้วยความจุ 16GB (199 เหรียญ) และ 32GB (299 เหรียญ)
สำหรับไอโฟน 3Gs รุ่น 16GB เชื่อว่าจะถูกลดราคาลงเหลือ 99 เหรียญ

iPhone 4G ในไทยมีมาจำหน่ายแล้วในราคาสองหมื่นต้นๆ อยากเป็นคน Intrend และ Update ก้อรีบไปจับจองกันได้แล้วนะคร้า

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ไอที ดีไซน์

มอนิเตอร์คู่แฝด
ถูกใจคนชอบจับปลาสองมือแน่ๆ ล่ะงานนี้ CTX Technology Corp. แนะนำจอมอนิเตอร์ LCD ขนาด 17 นิ้ว เป็นระบบจอมอนิเตอร์คู่ แต่ยังใช้เม้าส์อันเดียวในการควบคุมการทำงานระหว่าง 2 จอ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนโปรแกรมการทำงานระหว่าง 2 จอได้ จะให้จอซ้ายเล่น MSN จอขวาดูหนังก็ไม่มีปัญหา www.ctxtec.com

ไม้หนีบพยากรณ์
ยุคนี้อะไรๆ ก็เป็นดิจิตอลไปหมดเลย ไม่เว้นแม้แต่ 'ไม้หนีบผ้า' ผลงานล่าสุดของ 'โอลิเวอร์ แม็คคาธีร์' ถูกออกแบบให้เป็นเครื่องมือพยากรณ์อากาศ โดยติดตั้งไมโครโปรเซสเซอร์และซอฟต์แวร์ไว้ หากว่าฝนจะตก เครื่องก็จรายงานให้เจ้าของทราบทันที และจะไม่สามารถดึงไม้หนีบ ออกมาจาก Peg holder ได้ หรือถ้าตากผ้าไปแล้วฝนใกล้ตก เครื่องก็จะรายงานให้เจ้าของรีบเก็บผ้าทันที อยากรู้ความไฮเทค  http://www.oliver-maccarthy.co.uk/

คีย์บอร์ดแมงกะพรุน
Erik Campbell นักออกแบบได้ดีไซน์คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่มีการใช้งานคล้ายกับคอร์ดบนคีย์บอร์ดเครื่องดนตรีแทนการใช้ปุ่มตัวอักษรแบบ QWERTY ทีเราคุ้นเคย โดยผู้ใช้สามารถใช้มือเดียว เพื่อพิมพ์ตัวอักษรที่ต้องการได้ด้วยการกดปุ่ม 5 ปุ่มผสมกันลักษณะคล้ายลิ่มเปียโน แต่ดีไซน์ใหม่เขาได้ไอเดียมาจากแมงกะพรุน สำหรับต้นแบบคีย์บอร์ดที่ใช้การพิมพ์แบบคอรด์ (chorded keyboard) ได้ถูกออกแบบมาตั้งแต่ปี 1968 (ประมาณ 42 ปีที่แล้ว) โดย Doug Engelbart โดยชุดอุปกรณ์ประกอบด้วยลิ่มคีย์บอรด์ 5 อัน สามารถกดทีละตัว หรือผสมกัน เพื่อให้มันแสดงตัวอักษรต่างๆ ที่ต้องการได้ ซึ่งสามารถใช้แทนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์มาตรฐานทีใช้เป็นแป้นตัวอักษร QWERTY ได้อย่างสมบูรณ์ ดีไซน์ของ Campbell ได้เปลี่ยนดีไซน์ที่มีลักษณะคล้ายลิ่มคีย์บอร์ดเครื่องดนตรีแบบเดิมๆ ให้มีลักษณะเป็นวงกลมนูนตรงกลาง และมีปุ่ม 5 ปุ่มอ่อนนุ่มให้กดได้ เจ้าตัวบอกว่า ดีไซน์ทีเห็นนีได้รับแรงบันดาลใจมาจากแมงกะพรุน อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะสงสัยสิว่า Chorded Keyboard ที่มีแค่ 5 ปุ่มจะใช้แทนคีย์บอรด์ QWERTY ได้อย่างไร ลองชมคลิปที่นำมาฝากข้างล่างนี้ดูนะครับ ที่น่าทึ่งมากๆ ก็คือมันทำหน้าที่แทนเมาส์ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ดีไซน์ใหม่ของ Campbell เท่ากับเป็นการผสมผสานเมาส์เข้ากับคีย์บอร์ดได้อย่างลงตัวนั่นเอง...ว้าว!!!

เมาส์ไร้สายจิ๋วแต่แจ๋ว
นวตกรรมเมาส์ไร้สายที่ได้รับการดีไซน์ให้มีขนาดเล็กที่สุดในขณะที่ฟังก์ชันการใช้งานยังครบถ้วน โดยคุณสามารถใช้แค่สองนิ้วคือ นิ้วโป้งและนิ้วกลางในการใช้งานบนพื้นที่เล็กๆ อย่างบริเวณที่พักข้อมือของโน้ตบุ๊ค Swiftpoint Mouse เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ยังถนัดในการใช้เมาส์มากกว่าแทรคแพด (trackpad)

เมาส์ดีไซน์เก๋ เท่ห์อย่าบอกใคร

กล้อง DSLR ดีไซน์แนวๆ
กล้องดิจิตอล DSLR ที่รับรองว่า คุณต้องไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน โดยไอเดียเริ่มต้นมาจากความคิดทีว่า ทำไมกล้องดิจิตอลที่ไม่ได้ใช้ฟิล์มยังต้องออกแบบให้เหมือนเดิม ในขณะเดียวกันกล้อง DSLR รุ่นใหม่ๆ ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สวยงามไม่แพ้กล้องวิดีโอระดับโปรอีกต่างหาก
ว่าแล้ว Erin Fong ก็เกิดไอเดียที่จะออกแบบกล้อง DSLR แบบใหม่ที่มีหน้าตาแตกต่างไปจากเดิม เพื่อตอบโจทย์การใช้งานเป็นกล้องถ่ายรูป และถ่ายวิดีโอได้อย่างลงตัว โดยเปลี่ยนจากตัวเครื่องทีมลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ และใช้สองมือประคองในการถ่าย Fong ได้ปฏิวัติการออกแบบกล้อง DSLR ด้วยการเปลี่ยนมันเป็นที่จับ (movable arm) พับหมุนเข้า และกางออกได้ เพื่อให้สะดวกในการใช้มือจับ และใข้นิ้วกดปุ่มควบคุมการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ
นอกจากจะให้ความมั่นคงในการจับกล้องมากขึ้นแล้ว ที่จับทีพับได้ยังสามารถหมุนเข้าหากัน เพื่อใช้ถือมือเดียวสำหรับการถ่ายวิดีโอได้อีกด้วย เรียกว่า ดีไซน์ของมันตอบโจทย์การใช้งานทั้งสองลักษณะได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วคุณผู้อ่านล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรบ้างกับคอนเซปต์ Nova DSLR Camera  กล้องดิจิตอลทีมีดีไซน์ไม่เหมือนใคร รู้สึกอยากใช้กันบ้าง หรือเปล่า http://www.arip.co.th/news.php?id=410415

แลกเปลี่ยนความรู้ด้านไอทีกันได้น้า แล้วพบกันใหม่คร้า!!!!

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

แต่งภาพสวยๆ ด้วย web

แต่งภาพให้สวย อย่างนี้


ด้วย web เหล่านี้คะ
http://www.photofunia.com/
http://www.loonapix.com/
http://www.funnywow.com/
http://www.picnik.com/
http://www.magmypic.com/
ภาพบลิงค์
http://blingee.com/
http://www.puricute.com/
http://www.miiself.com/home.php
กราฟิตี้
http://www.puricute.com/
แต่งหน้า
http://www.taaz.com/
slideshow
http://www.slide.com/
http://www.rockyou.com/
http://www.picturetrail.com/
http://www.widget.sanook.com/

แต่งให้สนุกน้า มี web อื่นๆ แนะนำได้ค่ะ แล้วเอามาแชร์กันใน facebook นะคร้า

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

รู้จักกับ 3.9G Mobile Internet เทรนด์ใหม่ที่คุณต้องรู้

รู้จักกับ 3.9G Mobile Internet เทรนด์ใหม่ที่คุณต้องรู้ แบบเข้าใจง่ายๆ



มองภาพรวมของ 3.9G ก่อนว่ามันคืออะไรบ้าง ยุคสมัยก็คือการเชื่อมต่อด้วย Dial-up modem ตั้งแต่ยุคแรกๆ 56K มาถึง GPRS ขยับมาที่ EDGE จนมาถึง HSDPA 3.5G แล้วก็ข้ามไปที่ 3.9G ตามกราฟถือว่าเห็นภาพได้ชัดเจนในการพัฒนา เข้าใจแบบง่ายๆ ไม่ต้องเทคนิค


ต้องบอกก่อนว่า ทำไม Mobile Internet จึงเติบโตเร็ว จากเมื่อก่อนที่ใช้คอมพิวเตอร์ตามบ้าน กลายมาเป็นการใช้งานบนโน้ตบุ๊ก จนมาถึงโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกเยอะมาก ขยับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การเชื่อมต่อไร้สาย ใช้งานนอกสถานที่ กลายเป็นเรื่องจำเป็น แถมการใช้งานข้อมูล วีดีโออย่าง Youtube มีการอัพโหลด ส่งภาพ วีดีโอไปลง Multiply, Youtube มากขึ้น ทำให้ตลาดของอินเทอร์เน็ตมีผู้ใช้แอพพลิเคชั่นเยอะมาก การส่งข้อมูลหนาแน่นขึ้นมาก การรับชมภาพยนตร์กลายเป็น Blu-ray แบบ HD หนังเรื่องนึงมีขนาดใหญ่มาก ต้องใช้การดาวน์โหลดและอัพโหลดมากขึ้น


ดังนั้นทุกคนจึงต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อในทุกๆสถานที่ นอกจากการดาวน์โหลดข้อมูลแล้ว จะต้องมองไปถึง การอัพโหลดข้อมูลที่สำคัญมาก เช่นการดาวน์โหลดไฟล์เสียง Voice Notes ทาง BlackBerry Messenger ที่สามารถส่งและรับเสียงพูดได้ อันนี้ถือว่าสำคัญเพราะเราจะเห็นการดาวน์โหลดที่ช้ามากเพราะผู้ให้บริการโฆษณาชวนเชื่อในการดาวน์โหลด แต่การอัพโหลดไม่ได้มีการพูดถึง ซึ่งสำคัญไม่แพ้กันในยุค Social Networking แบบนี้

การเชื่อมต่อ ทุกคนต้องการความเร็ว อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญก็คือ ความเสถียรในการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะคนที่เล่น Twitter จะหงุดหงิดมากเวลาที่ BB Service ล่ม หรือ EDGE ล่ม เพราะทำการให้สื่อสารขาดตอนและเสียอารมณ์ จึงอยากให้มองในมุมของ ความเสถียรเป็นหลัก เร็วอย่างเดียวไม่พอแน่ๆ ต้องครอบคลุมการเชื่อมต่อทุกพื้นที่ ดาวน์โหลดอัพโหลดได้เร็ว ไม่หยุดชะงักเพราะขาดความเสถียรของเครือข่าย

เทรนด์ที่เราต้องเรียนรู้ ต้องเข้าใจ ต้องศึกษา เพราะว่า ต่อไป เราจะต้องอยู่กับมัน การเลือกการเชื่อมต่อนั้นจะต้องมี 3 ส่วนคือ D N A

D N A มาจาก

Device อุปกรณ์ก็สำคัญ เพราะหากอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อไม่ดีแล้ว ขาดความเสถียรภาพของการทำงานเพื่อเชื่อมต่อ เช่น Air Card ที่ถูกๆ มักจะมีความร้อนสูงเมื่อใช้งานไปนานๆ และอาจขาดความเสถียรของข้อมูลในการรับส่ง ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลที่อัพโหลด ดาวน์โหลดเสียหาย ทำให้งานต้องหยุดชะงักหรือเสียเวลาต้องส่งใหม่

Network นอกจากความเร็วแล้ว เราต้องมองในการดาวน์โหลด และอัพโหลดด้วย การส่งภาพ วีดีโอขึ้นไปบน Social Network อย่าง Twitter Facebook ล้วนแต่ใช้การอัพโหลดทั้งสิ้น ความเสถียรก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในการเชื่อมต่อ

Application หากอุปกรณ์รองรับ เครือข่ายตอบสนอง แอพพลิเคชั่นเป็นตัวการสำคัญในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ การเชื่อมต่อกับเครือข่าย การใช้งานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

DNA สำคัญของการเชื่อมต่อ เอาง่ายๆอย่างการใช้ 3G Air Card จะมี 2 แบบคือ 3.6Mbps และ 7.2Mbps ซึ่งหากเครือข่ายรองรับ 7.2Mbps แต่ใช้อุปกรณ์ที่รองรับแค่ 3.6Mbps ก็ตันที่จะใช้เชื่อมต่อได้เท่าที่มี หากอุปกรณ์รองรับ แต่เครือข่ายไม่สนับสนุน ก็จะใช้เชื่อมต่อได้แค่นั้นเท่าที่ใช้งานได้ ในขณะเดียวกัน หากการเชื่อมต่อดี อุปกรณ์ดี แต่แอพพลิเคชั่นแย่ ก็ทำให้การทำงานสะดุดลงไปเหมือนกัน

การเลือกใช้แอร์การ์ดคุณภาพต่ำ ที่โอเคว่าใช้งานได้ปกติ แต่แอพพลิเคชั่นไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่า ใช้งานจนครบลิมิตของแพ็คเก็จแล้ว ผู้ใช้ไม่ทราบจึงใช้งานต่อไปเรื่อยๆ มีค่าบริการ ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเรื่อยๆ อันนี้ไม่ดีแน่ สุดท้ายก็ต้องจ่ายตามระเบียบไปเพราะใช้งานจริงๆ แต่แอพพลิเคชั่นไม่รองรับ


จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าแต่ละค่ายได้รับสัมปทานคลื่นความถี่ไม่เหมือนกัน อุปกรณ์ที่รองรับก็แตกต่างกันไปด้วย บางเครือข่ายอยู่ภายใต้สัมปทาน บางเครือข่ายด้วยเหตุผลทางเทคนิค อาจจะได้ความเร็วตามมาตรฐาน

จะเห็นได้ว่า แต่ละเครือข่าย รองรับเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อ Mobile Internet ต่างกัน ที่นี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับ สถานที่ที่เราอยู่ประจำ จังหวัดที่เราใช้งาน อุปกรณ์ที่เราใช้งานรองรับความถี่คลื่นที่เครือข่ายให้บริการหรือไม่ แอพพลิเคชั่นรองรับแค่ไหน อันนี้ต้องเป็นเรื่องที่พิจารณาประกอบกันทั้ง D N A พร้อมๆกันเลย เพราะต่อไปหากการเชื่อมต่อวิ่งไปที่สูงสุด 21Mbps HSPA เครื่องลูกข่ายและอุปกรณ์ในประเทศไทยเราก็ต้องปรับตัวเพื่อให้ใช้งานบนเครือข่ายที่รองรับและมีแอพพลิเคชั่นมาเสริมอีกเช่นกัน


ที่ต้องเข้าใจก็เพราะว่า การเชื่อมต่อบน Mobile Internet ที่สูงกว่า EDGE/GPRS หรือ ADSL นั้น เราจะไม่ได้เป็นแบบ Unlimited แต่จะคิดเป็น Bit และ Byte ก็ต้องเข้าใจ โดยเฉพาะการเข้าดาวน์โหลด เช็กอีเมล์นิดหน่อย ทำไหมข้อมูลมันวิ่งไปร่วมๆ 5MB แล้ว เพราะการเชื่อมต่อ การส่งผ่านข้อมูลสมัยนี้ มีทั้งภาพ เสียง วีดีโอ ข้อความ ที่รวมๆกันแล้วก็เป็น MB เลยทีเดียว

ต่อไปเราจะเรียกกันเป็น Bit และ Byte จะไม่ได้คิดเป็นชั่วโมงหรือ Unlimited ได้อีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วเราต้องสำรวจการใช้งานของเราเองว่าเหมาะกับแพ็คเกจไหน


ต่อไป แอร์การ์ดจะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น คุณภาพของเครือข่าย การให้บริการ การคิดค่าบริการ สัมพันธ์กับการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ

ความเร็วจะไม่ได้พูดกันแค่ Download อีกต่อไป เพราะทุกคนจะมีการ Upload ส่ง Voice Notes ถ่ายวีดีโอส่ง Clip สั้นๆ การใช้งานกล้องด้านหน้า Video Call บนระบบ 3G

การเล่นหนังแบบสตรีมมิ่งฉายออกทางโปรเจคเตอร์ จากบนมือถือได้โดยตรง รับชมได้หลายคน โลกของ Mobile Internet จะไม่ใช่แค่ ดาวน์โหลดแบบแต่ก่อนอีกต่อไป

แต่จะเป็นการแชร์ในสังคมออนไลน์ มีการ Upload มากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ

ความเร็วในการตอบสนองการเล่นเกม การส่งข้อมูลไปบนเซิร์ฟเวอร์ การเก็บเลเวล เก็บคะแนน เราจะได้เห็นกันบน Mobile Internet ที่ไม่ต่างจากบน ADSL ที่เราเล่นเกมกัน

ความเร็วในการเปิดหน้าเว็บก็สำคัญ เช่นเดียวกับเราใช้งานบราวเซอร์บนคอมพิวเตอร์ จะมีหลายค่าย หลายแบรนด์ที่ตอบสนองการใช้งาน บนมือถือหรืออุปกรณ์ไร้สายก็จะมีบราวเซอร์ต่างกัน เช่นบน iPhone ก็จะมี Safari แต่เราก็ติดตั้งบราวเซอร์อื่นที่เหมาะกับเราได้เช่นกัน ดังนั้นความเร็วเมื่อป้อน URL เข้าไปแล้ว การเชื่อมต่อต้องผสานการทำงานของแอพพลิเคชั่น อุปกรณ์ และเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วด้วย

นี่คือโลกของ Mobile Internet ที่ทุกคนจะต้องเจอ และอีกไม่นาน ปีหน้า ถ้าไม่มีอะไรติดขัด เราจะได้อยู่ในโลกของ 3.9G เราจะโหลดการ์ตูนอ่านบนมือถือ บน iPhone, iPad เราจะสนุกกับการเชือมต่อไร้สายได้มากขึ้น ไม่ติดขัดที่เครือข่ายเหมือนทุกวันนี้ เพราะตอนนี้ อุปกรณ์พร้อม แอพพลิเคชั่นพัฒนาได้ แต่ติดที่เครือข่าย การสัมปทาน การรับใบอนุญาตให้บริการ ทำให้ล้าหลังในต่างประเทศ

เก็บมาฝากจาก http://appreview.in.th/2010/06/26/3g-mobile-internet-future

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

Steve Jobs Gang กับเทคโนโลยีอินเทรนด์


คุณวันเพ็ญ ธีรวชิรกุล สาวสวยมาดเท่ เก๋กับ IPAD

คุณบัณฑิต พฤกษ์คุ้มวงษ์ คนคุ้นเคย ซีคอนบางแค แชร์ Socilal network


คุณรัชนี ตั้งเจริญธรรม กำลังอินเทรนด์สุดๆ กับ BB


คุณพรฆรณี ชัยอมรเวทย์ อัพเดทได้ทุกที่กับ IPHONE


คุณณรงค์ โรจนวิภาค ชีวิตไม่ขาด Notebook


คุณอภัย กองทอง ท้าให้คุณลอง IPOD


คุณธัญรัศม์ จันทร์เขียว เปรี้ยวซ่า น่าค้นหา QR code


คุณรุ่งทิวา เกษมอมร กล้องดิจิตอลทำให้ชีวิตไม่ลิมิต


คุณไพฑูลย์ เลาหพรทรัพย์ เปิดโลกทัศน์กับ IMac

หลากหลายมุมมองด้านไอที ที่ไม่หยุดนิ่งของ Steve Jobs Gang

วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553